มิจฉาสมาธิ เช่น ท่านดาบสทั้งสอง(อาฬารดาบส อุทกดาบส) ผู้สำเร็จอรูปฌานขั้นสูง/สูงสุด ท่านทั้งสองได้สมาธิขั้นอรูปฌานอันเป็นอรูปราคะที่ร้อยรัด มีตัณหา(วิภาวะตัณหา - อกุศล)เป็นแรงยึดคือความปรารถนาในอัตตาที่เที่ยง ซึ่งเป็นสักกายทิฏฐิ อารมณ์จิตของดาบสจะเป็นของเที่ยง(สำหรับท่านดาบส) ตราบเท่าที่ท่านเจริญอรูปฌาณนั้น แม้จะออกจากฌาณแล้ว ด้วยสักกายทิฏฐิที่เป็นสังโยชน์ร้อยรัดท่านที่ยังอยู่ตลอดเวลา ก็ยังเห็นว่าเป็นทาง(มรรค) ที่จะนำท่านไปสู่อัตตาเที่ยงแท้ต่อไป
ความไม่รู้อันนี้นำดาบสทั้งสองไปสู่วิวัฏฏะ (ความวนคือ กิเลส กรรม และผลกรรม)เพราะปราศจากปัญญา(สัมมาญาณะ) ส่วนเจ้าชายสิทธัตถะเห็นว่าไม่เที่ยงเพราะเห็นว่าความเป็นตัวตนของเจ้าชายฯ ยังมี ยังไม่หลุดพ้นจากวิวัฏฏะจึงออกค้นหาทางอีกต่อไป...
สัมมาสมาธิที่เป็นมรรค เอกัคคตารมณ์ที่มาจากสัมมาสติ(ที่กั้นกระแส) ความว่างที่เป็นสูญญตา เป็นความไม่ยึดที่ถูกละมาโดยตลอดของอาการอานาปานสติ (ตรงข้ามกับเอกัคคตารมณ์ที่มาจากความยึดในรูป อรูป) โดยอานาปานสติแม้กระทั่งในขณะที่จิตเป็นเอกัคคตาก็ยังกำหนดให้ละ (เพื่อให้รู้ ? - เป็นสัมมาญาณะ) คือ ความละสภาวะเอกัคคตานั้นแล้วกลับมาหายใจ นี้เป็นลักษณะการเจริญสัมมาสมาธิที่นำไปสู่สัมมาญาณะ กระมังครับ ???
ความแตกต่างของมิจฉาสมาธิ / สัมมาสมาธิ
สัมมาสมาธิที่เป็นมรรค เอกัคคตารมณ์ที่มาจากสัมมาสติ(ที่กั้นกระแส) ความว่างที่เป็นสูญญตา เป็นความไม่ยึดที่ถูกละมาโดยตลอดของอาการอานาปานสติ (ตรงข้ามกับเอกัคคตารมณ์ที่มาจากความยึดในรูป อรูป) โดยอานาปานสติแม้กระทั่งในขณะที่จิตเป็นเอกัคคตาก็ยังกำหนดให้ละ (เพื่อให้รู้ ? - เป็นสัมมาญาณะ) คือ ความละสภาวะเอกัคคตานั้นแล้วกลับมาหายใจ นี้เป็นลักษณะการเจริญสัมมาสมาธิที่นำไปสู่สัมมาญาณะ กระมังครับ ???